วิธีการสร้างกลยุทธ์ที่ส่วนที่ 3: การสนับสนุนและการต่อต้าน กว่าชุดของบทความนี้เราจะเดินค้าผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนในการสร้างกลยุทธ์การซื้อขาย งวดแรกในซีรีส์ที่กล่าวถึงสภาวะตลาด ที่สองมองไปที่กรอบเวลาแผนภูมิที่มีอยู่ นี้เป็นรายการที่สามในการที่เราจะตรวจสอบกลไกของการสนับสนุนและต่อต้าน S upport และความต้านทานมีธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นผู้ประกอบการจะต้องผ่านกระบวนการของการสร้างกลยุทธ์ เพราะความสำคัญของมัน ก็มักจะ behooves ผู้ประกอบการสร้างท่าทางวัตถุประสงค์เพื่อผสมผสานราคาเหล่านี้เป็นกลยุทธ์ที่ เมื่อการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและระดับความต้านทานที่พบนี้สามารถเปิดใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพผู้ค้าที่จะวางแผนแนวทางของพวกเขาในการจัดการการซื้อขายและปรับระดับความเสี่ยง บทความนี้จะหารือเกี่ยวกับกิริยาท่าทางต่าง ๆ สำหรับการระบุการสนับสนุนหรือความต้านทานเพื่อให้ผู้ค้าสามารถเริ่มต้นที่เหมาะสมอยู่องค์ประกอบของการออกแบบกลยุทธ์ของพวกเขานี้ ผู้ค้าหลายคนคิดว่าการเคลื่อนไหวของราคาจะมีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษเมื่อการระบุการสนับสนุนและความต้านทานสำหรับเหตุผลหนึ่งที่น่าสนใจมาก: ตลาดมีการซื้อขายจริงสินทรัพย์นี้ในระดับที่ต้องการเหล่านั้น ที่สร้างขึ้นด้วย MarketScope / สถานีเทรดดิ้ง ตัวอย่างเช่นถ้าผมสังเกตราคาที่ได้เด้งออกจาก 0.9956 ในคู่สกุลเงิน AUDUSD แล้วผมมั่นใจสามารถนำไปข้างหน้าราคาที่สะท้อนออกมาที่ระดับ 0.9956 เพราะเมื่อได้รับผลกระทบจำนวนของผู้ขายในตลาดมากกว่าผู้ซื้อ; สำหรับจำนวนของเหตุผลใด ๆ ความจริงที่ว่าราคาได้สะท้อนออกระดับนี้ก็ชี้ออกมาให้เราเห็นว่าตลาดต่อต้านที่ 0.9956 ถ้าเราสามารถพบว่าระดับ Fibonacci retracement หรือบางทีอาจจะในระดับหมุนได้ในราคาที่ว่าแล้วเราสามารถพิจารณาระดับของความต้านทานต่อการมี & lsquo ที่มิบรรจบกันในการที่จะได้รับการพิจารณาความต้านทานด้วยวิธีการหลาย ๆ ในฐานะที่เป็นมนุษย์ที่เราคิดว่าในจำนวนรอบ ราคาต่อรองจะถ้ามีคนถามฉันว่าฉันจ่ายเงินสำหรับรถของฉันฉันจะใช้จำนวนรอบ แทนที่จะพูด $ 31,455.94, Id แนวโน้มที่พูด $ 30,000 และราคาที่คุณจะทำบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกันถ้าถูกวางด้วยคำถามเทียบเคียง ในฐานะที่เป็นมนุษย์เรากำเนิดคุณค่าของความเรียบง่ายนี้ เราตัวเลขรอบโดยอัตโนมัติขึ้นหรือลงเพื่อประหยัดเวลา เรื่องนี้เกิดขึ้นในการซื้อขายของเราเช่นกัน ผู้ค้าหลายคนมักจะวางหยุดหรือข้อ จำกัด ที่เหมาะสมในระดับเหล่านี้เช่นใน AUDUSD 1.0000 หรือ 1.3000 ใน EURUSD หรือ 1.55000 ใน GBPUSD EURUSD เล่นกับระดับ 1.30 / สร้างด้วย MarketScope / สถานีเทรดดิ้ง และหยุดหรือข้อ จำกัด ที่ได้รับอยู่ที่ระดับเหล่านี้แน่นอนที่สุดจะมีผลต่อการไหลเวียนของการสั่งซื้อ; หมายความว่าถ้าราคาที่วิ่งขึ้นไปในระดับที่แข็งแกร่งของ & lsquo; ต้านทานทั้งจำนวน คำสั่งหยุดพอที่สามารถเรียกให้มากขึ้นกว่าความต้องการปิดการตั้งค่า นี้ทำหน้าที่เป็นกำแพงอิฐหยุดและย้อนกลับของราคา - ผลักดันที่ต่ำกว่า บ่อยครั้งที่ผู้ค้าพิจารณาราคาที่ลงท้ายด้วย 000 ในคู่สกุลเงินหลัก (เช่น 1.31000, 1.36000 ใน EURUSD) หรือสิ้นสุดใน 0.00 และเงินเยนใน; - pairs (. เช่น 113.00 ใน EURJPY) ผู้ค้าได้นำแม้นี้เป็นขั้นตอนต่อไป ดูราคาสิ้นสุดใน 50 เพิ่มขึ้น pip (เช่นใน EURUSD 1.3150 หรือ 0.9950 ใน USDCAD) คาดการณ์ทฤษฎีนี้ต่อไป ที่สร้างขึ้นด้วย MarketScope / สถานีเทรดดิ้ง ไม่ทุกคนระดับเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นแรงสนับสนุนหรือความต้านทาน แต่ส่วนมากของระดับเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการค้าจะมุมมองเพิ่มเติม ในช่วง uptrends ราคามักจะคั่งในทางขึ้นต่อต้านรอบตัวเลขทั้งหมด และในช่วง downtrends อาจเกิดเดียวกันสามารถร่วมเป็นสักขีพยาน บางทีอาจจะเป็นสนามไม่ได้เห็นมากขึ้นและ lsquo; การวิจัยความคิดสร้างสรรค์ในการใช้งานในการวิเคราะห์ทางเทคนิคกว่าฟีโบนักชี มีหลายรสชาติของการศึกษา Fibonacci แต่สำหรับวัตถุประสงค์ของบทความนี้เราจะมุ่งเน้นไปที่ความนิยมมากขึ้นหรือมี retracements Fibonacci พล็อตที่จะ Fibonacci retracement หนึ่งต้องเท่านั้นที่จะสังเกตเห็นแนวโน้ม แพคเกจการสร้างแผนภูมิส่วนใหญ่มีเครื่องมือวาดภาพ Fibonacci พร้อมใช้งานที่ผู้ประกอบการสามารถบ่งบอกถึงระยะเวลาที่จะวิเคราะห์ เครื่องมือที่จะวาดระดับในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ช่วงเวลาที่อยู่บนพื้นฐานของ Fibonacci ลำดับคณิตศาสตร์) ระดับราคาที่ช่วงเวลาเหล่านี้มักจะวาดจะคิดว่าเป็นฝ่ายสนับสนุน (ในแนวโน้มขึ้นที่กำลังเผชิญ retracement ก) เท่าที่เห็นด้านล่าง ผู้ค้ามีแนวโน้มมักจะคาดว่าจะมีแนวโน้มเดิมกลับมาเป็นสมการ; มองหาที่จะเข้าสู่การค้าในทิศทางด้านแนวโน้มเดิมเป็นราคาเหล่านี้ได้รับการตี ดังนั้นในกรณีที่เป็นขาลงในระยะยาวผู้ประกอบการค้าสามารถแสดงแนวโน้มในชาร์ตที่เห็นด้านล่าง ขณะที่ราคากลับมาให้อยู่ในระดับเหล่านี้ขณะที่ขาลงจะถูกตรวจสอบอีกครั้งผู้ประกอบการสามารถมองไปใส่ค้าในความคาดหมายของขาลงกลับมามีผลบังคับใช้ นี้เป็นเพียงวิธีหนึ่งที่ระดับ Fibonacci สามารถซื้อขาย แต่สิ่งที่จะต้องเก็บไว้ในใจว่าขณะนี้เป็นวิธีการที่ผู้ค้าระบุสนับสนุนและความต้านทานอื่น ผู้ประกอบการแต่ละคนมักจะมีจุดได้เปรียบของตัวเองใน Fibonacci; หัวรุนแรงที่มีความกระตือรือร้นมากในขณะที่คนอื่นจะชอบที่จะใช้กลไกอื่น ๆ เช่นการดำเนินการราคาหรือจุดหมุน มีกิริยาท่าทางต่าง ๆ นานาในการระบุจุด Pivot และเป็นองค์ประกอบของการสนับสนุนและความต้านทานที่สามารถขึ้นรูปกับเป้าหมายของผู้ค้าที่มี ที่หลักของจุดหมุนเป็นเพียงการคำนวณขึ้นอยู่กับพฤติกรรมที่ผ่านมาราคาที่สามารถให้การสนับสนุนความคิดของการที่มีศักยภาพและความต้านทาน จุด Pivot รายเดือนในกราฟรายวัน; ที่สร้างขึ้นด้วย MarketScope / สถานีเทรดดิ้งครั้งที่สอง อะไรคือสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับจุดหมุนเป็นวิธีการที่พวกเขามักจะทำงานเป็นสนับสนุนและความต้านทานแม้จะมีราคาเหล่านี้เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชั่นทางคณิตศาสตร์ ยกตัวอย่างเช่นรูปแบบที่นิยมมากที่สุดของจุดหมุนมักจะคิดว่าเป็น & lsquo; pivots ชั้นผู้ประกอบการค้า ในการคำนวณ pivots ผู้ประกอบการชั้นคุณใช้สูงต่ำและใกล้ชิดของช่วงก่อนหน้าและคุณแบ่งพวกเขาด้วย 3 พี่ก็แค่ค่าเฉลี่ยของทั้งสามราคา จากนั้นคุณสามารถคูณ 2 แล้วลบต่ำของเมื่อวานนี้และคุณมาถึงที่ & lsquo; ระดับเดือย R1 ที่จะได้รับและ lsquo; S1 คุณสามารถคูณราคาเดือย 2 อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เราลบสูงจากเมื่อวานนี้ เป็นเรื่องของความเป็นจริงชื่อ & lsquo; pivots ชั้นผู้ประกอบการค้ามาจากเวลาก่อนที่คอมพิวเตอร์ stewarded แลกเปลี่ยนเมื่อผู้ค้าบนชั้นที่จำเป็นเพื่อให้สามารถคำนวณได้อย่างรวดเร็วและ lsquo; พื้นที่สนามเบสบอลของการสนับสนุนหรือความต้านทาน หมุนสามารถคำนวณได้ในระยะเวลาใด ๆ แต่มักจะเป็นระยะเวลานานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นระดับ จุดหมุนทุกสัปดาห์จะถือว่าเป็นการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง / ต้านทานชั่วโมงกว่าตัวอย่างเช่น นอกจากนี้ยังมีรสชาติที่แตกต่างของระดับเหล่านี้เช่น Camarilla หมุนซึ่งมักจะเป็นที่ต้องการโดยผู้ค้าในระยะสั้นที่พวกเขาใช้สมการทางคณิตศาสตร์ที่แตกต่างกันที่มักจะมีระดับมากใกล้กับราคาปัจจุบันกว่า pivots ชั้นผู้ประกอบการค้า ซึ่งองค์ประกอบของการสนับสนุนและความต้านทานที่ดีที่สุด? ดีก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของคุณ ไม่มีการสนับสนุนดังกล่าวแนวปะทะมีพฤติกรรมการคาดการณ์ใด ๆ แต่ละคนเป็นเพียงความน่าจะเป็นที่เราเคยชินจะสามารถที่จะกำหนดจนกว่าการค้าที่มีมากกว่า แต่ระดับเหล่านี้สามารถช่วยให้ผู้ค้าสร้างแนวทางของพวกเขาที่จะทำงานกับความน่าจะเป็นที่; มองหาที่จะจำกัดความเสี่ยงขณะที่การเพิ่มกำไร ดังนั้น & lsquo; เนื้อของกลยุทธ์ยังคงเป็นอย่างมากที่เกิดขึ้นให้เป็นไปตามรอบการบริหารความเสี่ยงเพราะความจริงรวมเดียวที่คุณจะไม่ทราบว่าเทียนถัดไปในแผนภูมิจะเป็น --- เขียนโดยเจมส์บีสแตนเลย์ หากต้องการติดต่อเจมส์สแตนเลย์โปรดส่งอีเมล InstructorDailyFX คุณสามารถปฏิบัติตามเจมส์บนทวิตเตอร์ JStanleyFX ในการเข้าร่วมเจมส์ Stanleys รายชื่อโปรดคลิกที่นี่